“โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศในเรื่องการค้นคว้าและวิจัยในเรื่องสมุนไพร มานานกว่า 20 ปี อีกทั้งยังเป็นแหล่งฝึกอบรมหลักสูตรด้านการแพทย์แผนไทยที่ได้รับการรับรองให้เป็นสถาบันฝึกอบรมด้านการแพทย์แผนไทย เป็นแหล่งศึกษาดูงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร และการจัดระบบบริการด้านการแพทย์แผนไทย
คลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ “อภัยเวลเนส” สืบสานภูมิปัญญาไทย ผ่านสมุนไพร และศาสตร์แพทย์แผนไทย แบบฉบับเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้บริการดูแล สุขภาพผ่านการกดจุดรักษา โดยแพทย์แผนไทย และ ศาสตร์สมุนไพรอภัยภูเบศร ด้วยสมุนไพรคุณภาพสูง ที่คัดเลือกมาอย่างดีจากธรรรมชาติ และนํามาผ่าน กระบวนการปรุง และสกัดให้เป็นยาตามตํารับยาไทย เพื่อใช้ในการรักษาสุขภาพ ปรับสมดุล สร้างสุภาพดี ประกอบการนวดกดจุดรักษาตามตํารับแพทย์แผนไทย แบบเฉพาะอภัยภูเบศร และด้วยประสบการณ์การดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร และธรรมชาติบําบัดอันยาวนานเพื่อมาดูแลสุขภาพ ให้แก่คนเมืองแล้ววันนี้
การแพทย์แผนไทย หรือ การแพทย์แผนโบราณ
เป็นหนึ่งในศาสตร์การดูแลสุขภาพได้ทั้งบุคคลที่อยู่ในสภาวะปกติ
และบุคคลที่กำลังอยู่ในสภาวะที่ผิดปกติ หรือเป็นโรคนั่นเอง
ซึ่งการแพทย์แผนไทยจะทำการรักษาโดยใช้ทฤษฎีความสมดุลของธาตุต่าง ๆ
ในร่างกายและกายวิภาคศาสตร์ รวมถึงวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์เข้ามาอธิบายสภาวะต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ โดยองค์ความรู้ต่าง ๆ
ของแพทย์แผนไทยล้วนได้รับการสั่งสมความรู้
ประสบการณ์มาเป็นเวลาช้านานเพื่อดูแลสุขภาพของทุกคน
ซึ่งในปัจจุบันแพทย์แผนไทยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพของคนในสังคม
เพราะเป็นดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพที่ถูกกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน
พร้อมช่วยสร้างสุขภาพของทุกคนให้ดีขึ้นอย่างถ้วนหน้า
ทำให้แพทย์แผนกลับเข้ามาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ดังนั้น
แพทย์แผนไทยจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของคนในเมือง
การแพทย์แผนไทย (Thai Traditional Medicine) มีประวัติพบว่าเริ่มต้นขึ้นประมาณปี พ.ศ.
1725-1729 โดยมีการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ชื่อว่า อโธคยาศาลา ซึ่งหน้าที่รักษาพยาบาล คล้าย ๆ
กับคลินิกแพทย์แผนไทยในปัจจุบัน
นอกจากนี้ในสมัยสุโขทัยมีการค้นพบว่าพ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ทรงสร้างสวนสมุนไพรขนาดใหญ่เพื่อให้ชาวบ้านไปเก็บมาเพื่อรักษาในเวลาเจ็บป่วย
จนมาถึงในสมัยอยุธยา แพทย์แผนไทยได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย ที่เรียกว่า อายุรเวท
ซึ่งเป็นการรักษาสภาวะสมดุลของธาตุ 4 ซึ่งองค์ประกอบของชีวิต จนมีการจัดตั้งกรมแพทยา
โรงพระโอสถ กรมหมอยา และกรมหมอนวด เป็นต้น และมีการจัดทำรับยาขึ้นชื่อว่า
“ตำราพระโอสถพระนารายณ์” ที่รวบรวมตำรับยาในยุคนั้นเอาไว้
มาถึงในสมัยรัตนโกสินทร์ มีการรวบรวมและจารึกตำรายา ตำราฤาษีดัดตน
และตำรานวดแผนไทยไว้ตามศาลาราย และมีวิวัฒนาการเรื่อยมา จนมาถึงรัชกาลที่ 5
ได้บรรจุวิชาแพทย์แผนไทยเอาไว้ในโรงเรียนแพทยากรขึ้นที่ศิริราช และการพิมพ์ตำราแพทย์
ชื่อว่า แพทยศาสตร์-สงเคราะห์ (ฉบับหลวง) ในปี พ.ศ. 2438
ซึ่งมีข้อมูลทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย
โดยมีช่วงเวลาที่แพทย์แผนตะวันตกเข้ามาทำให้แพทย์แผนไทยไม่ได้รับความสนใจ
แต่ในที่สุดในสมัยรัชกาลที่ 9
ก็มีการฟื้นฟูแพทย์แผนไทยขึ้นมาอีกครั้งและได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ในปัจจุบันแพทย์แผนไทยสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 4 สาขาด้วยกัน ดังต่อไปนี้
สำหรับการแพทย์แผนไทยในปัจจุบัน ได้รับการสนับสนุนให้เป็นแพทย์ทางเลือกที่ช่วยในการฟื้นฟูสภาพร่างกายและบรรเทาความเจ็บป่วยของประชาชน รวมไปถึงการดูแลรักษาโรคต่าง ๆ ตามวิธีของแพทย์แผนไทย ซึ่งในปัจจุบันนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน โดยรูปแบบการบริการนั้นคนไข้อาจเข้ามารักษาอาการกับแพทย์แผนไทยโดยตรง หรือได้รับการส่งต่อมาจากแพทย์แผนปัจจุบัน
ซึ่งในด้านการบริการแพทย์แผนไทยของคลินิกแพทย์แผนไทยในปัจจุบัน จะมีบริการทั้งการนวดไทย การอบไอน้ำสมุนไพร การประคบสมุนไพร และการจ่ายยาสมุนไพร รวมไปถึงการดูแลและฟื้นฟูมารดาภายหลังการคลอด ซึ่งการให้บริการมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการรักษากับแพทย์แผนไทยโดยตรง เพื่อเข้ารับการรักษาในขั้นตอนต่อไป สำหรับการวางแผนการบำบัดรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย มีวิธีการ ดังนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันทุกคนกลับมาให้ความสำคัญกับแพทย์แผนไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการนวดไทย รวมถึงทั่วโลกได้กลับมาให้ความสำคัญกับสมุนไพรในการดูแลสุขภาพก่อนเกิดโรค ซึ่งถ้าหากเราใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมให้มีสุขภาพที่แข็งแรงดีแล้ว ย่อมดีกว่าการไปหาแพทย์ปัจจุบันเพื่อรักษาโรค เพราะนั่นเป็นการดูแลรักษาสุขภาพในลำดับท้ายสุดแล้ว ดังนั้น เราจึงควรดูแลสุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย ร่วมกับการรักษาโรคด้วยแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำให้สุขภาพของดีและแข็งแรงมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม นอกจากนั้น คลินิกแพทย์แผนไทยยังมีสำคัญในการดูแลสุขภาพและการรักษาโรคไม่น้อยเลยทีเดียว
ต้องยอมรับว่าการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของแพทย์แผนไทยนั้นมีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเป็นการบรรเทาอาการ ดูแลสุขภาพก่อนที่จะมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นจริง ดังนั้น หากใครที่มีอาการเจ็บป่วยที่สามารถใช้แพทย์แผนไทยในการดูแลรักษาโรคได้ แพทย์แผนไทยก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยในการดูแลสุขภาพของคุณเอง
Copyright© ABHAI WELLNESS 2021.All right reserved.